สัมภาษณ์ภิกษุณีธัมมนันทา
ประกอบการนำเสนอเท่านั้น!!!!!!!
มิได้มีเจตนาล้อเลียนแต่อย่างใด
พิธีกร สัมภาษณ์ นางสาวพัณณิตา พวงทับทิม 53020095 (รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว)
55555555555555
เต๋า
|
“ทาง” (Way) “เส้นทาง” (Path) “ถนน” (Road) หรือวิถี (ทางที่ไร้หนทาง วิถีที่ปราศจากวิถี
|
ทางโลก
|
ทางที่และเห็น บรรลุถึงจุดหมายได้
|
ทางที่ยิ่งใหญ่
|
มีอยู่จริง ไปไม่ได้ด้วยการเดิน ตัวหนทางนั้นเองเป็นจุดหมาย ตัวเรานั้นคือทางสายนั้น
|
ปรัชญาตะวันตก
|
ปรัชญาจีน
|
มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับวิทยาศาสตร์
|
มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจริยศาสตร์
การเมือง วรรณคดี และศิลปะ
|
แสวงหาความรู้เพื่อความรู้
|
ความรู้นั้นคือมรรควิธีที่นำไปสู่อุดมคติอันสูงส่งที่ปฏิบัติได้ในชีวิตจริง
![]() |
สอนเรื่องความรักในพระเจ้า
|
สอนเรื่องความรักในเพื่อนมนุษย์ เน้นความสำคัญของจริยธรรม
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความเกี่ยวข้องทางสังคม หน้าที่ของพลเมืองดี
และหลักปฏิบัติทางศีลธรรม
|
ปรัชญาตะวันตก
|
ปรัชญาจีน
|
ความรู้จากทฤษฎีคือ
ความรู้และความหมายที่ได้จากหลักคำสอนอันเป็นหลักจากอนุมาน
การใช้ความคิดทางคาดคะเน และการวิเคราะห์เหตุผลแบบตรรกวิทยา
|
เน้นการภาวนาฝึกฝนอบรมตนเอง
ซึ่งส่งผลให้มีความสนใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับปัญหาที่เป็นรูปธรรม
|
สนใจเรื่องของความขัดแย้งกันของสิ่งที่แตกต่างจากกันในโลก
เช่น ความขัดแย้งระหว่างคนกับพระเจ้า อุดมคติกับความเป็นจริง สังคมกับปัจเจก
อำนาจกับเสรีภาพ
|
มีลักษณะไม่ใช่เป็นความขัดแย้ง
แต่เป็นความกลมกลืนประสานกันของสิ่งทั้งหลายในโลก มนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของจักรวาล
โลกจักรวาลเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์ผูกพันกันอย่างแน่นแฟ้น
|
ปรัชญาตะวันตก
|
ปรัชญาจีน
|
แบ่งออกเป็น 5 สาขา
|
แทบจะไม่มีการแยกคนออกจากความต้องการทางจริยธรรมและการปฏิบัติในชีวิตของบุคคลเลย
จิตมีความกลมกลืนกับทุกสรรพสิ่ง
|
ปรัชญาตะวันตก
|
ปรัชญาจีน
|
ฝังใจเกี่ยวกับเรื่องความขัดแย้งกันของสิ่งที่แตกต่างกันและกันที่มีอยู่ในโลก
เช่น คนกับพระเจ้า อุดมคติกับความเป็นจริง สังคมกับปัจเจก อำนาจกับเสรีภาพ
เป็นต้น
|
มีลักษณะเด่นไม่เป็นความขัดแย้ง
แต่เป็นความกลมกลืนประสานสืบเนื่องกันของสิ่งทั้งหลายในโลก ปรัชญาจีนถือว่า
มนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของโลกจักรวาล และโลกจักรวาลเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์
มนุษย์กับธรรมชาติผูกพันกันอย่างแน่นแฟ้นสมบูรณ์ต่อกันและกัน
|
เรียกเกณฑ์ตัดสินนี้ว่า “ ปรนัยนิยม ” ( Objectivism ) เป็นกลุ่มที่เชื่อว่า มีเกณฑ์มาตรฐานตายตัวแน่นอนในทางศิลปะ ซึ่งสามารถนำไปตัดสินผลงานได้ในทุกสมัย เกณฑ์มาตรฐานนี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงและไม่ขึ้นอยู่กับความรู้สึกใครหรือศิลปินคนไหน กลุ่มนี้มีความเชื่ออีกว่า สุนทรียธาตุมีอยู่จริง แม้ว่าเราจะเข้าถึงมันไม่ได้ก็ตาม แต่มันก็มีอยู่จริง และด้วยเหตุผลนี้ การที่เราตัดสินศิลปะออกมาไม่เหมือนกันก็เพราะเราแต่ละคนไม่สามารถเข้าถึงสุนทรียธาติที่แท้จริงได้หรือตัวจริงมาตรฐานนั่นเอง การที่เราจะเข้าถึงเกณฑ์มาตรฐานนี้ได้นั้น เราจำเป็นต้องฝึกพัฒนาจิตให้สมบูรณ์จนสามารถเห็นความงามมาตรฐานได้ บางคนอาจทำสมาธิ บางคนอาจฝึกฝนทางศิลปะจนชำนาญ เป็นต้น