วันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ปรัชญาของสวามี รามกฤษณะ



ปรัชญาของสวามี รามกฤษณะ

     
    สวามีรามกฤษณะเป็นคนแรกที่กล้าประกาศตนว่า “ศาสนาฮินดู ศาสนาคริสต์และศาสนาอิสลาม มีพระเจ้าองค์เดียวกัน” ที่เรียกต่างกันเพราะใช้ภาษาต่างกันเท่านั้น ท่านเกิดมาเพื่อรวมอารยธรรมตะวันออกและตะวันตกเข้าด้วยกัน
หลักปรัชญา
แนวคิดทางปรัชญาเกิดจากประสบการณ์ตรง เพราะท่านไม่ได้ศึกษามาจากตำราแต่ศึกษาโดยการปฏิบัติ โดยรามกฤษณะมีทรรศนะต่อเรื่องต่าง ๆ ดังนี้

1. พระเป็นเจ้ากับโลก รามกฤษณะถือว่า การรู้แจ้งพระเป็นเจ้า เป็นสาระสำคัญของทุกศาสนา และจุดสูงสุดของมนุษย์ คือความเป็นอันเดียวกับพระเจ้า แต่การการบรรลุถึงภาวะนี้ได้ ต้องทำความเพียรติดต่อกันโดยไม่หยุด พระเจ้าสร้างโลกนี้ขึ้นมา แต่ไม่ยึดติดกับโลกนี้ การทำตนให้หลุดพ้นจะไปพบกับพระเจ้าอย่างแท้จริง
อย่างตัวอย่างในเรื่อง ที่รามกฤษณะเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง ที่เป็นผู้หญิงขายบริการ แต่เขากลับมองเห็นเป็นนางสีดาที่บริสุทธิ์ เขาจึงบูชาสตรีทุกคนในฐานะเป็นตัวแทนของเจ้าแม่กาลี อยู่ในร่างของสตรี หรืออีกเหตุการณ์หนึ่งที่เขาคิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิง ในตอนที่ต้องไปอาศัยอยู่กับบ้านคนอื่น ผู้หญิงที่อยู่ในบ้านนั้นปฏิบัติกับเขาเสมือนว่าเป็นผู้หญิง เขาจึงบอกว่าจิตเขาอยู่เหนือความรู้สึกทางเพศ จากตัวอย่างดังกล่าวจะเห็นว่า ไม่ให้เราไปยึดติดกับภาพมายา แต่มุ่งเพื่อไปเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับพระเจ้า


2. การฝึกจิตให้เห็นแจ้งพระเจ้า รามกฤษณะบอกว่าศาสนาทุกศาสนา เป็นหนทางไปสู่พระเจ้า การหลุดพ้นจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อปฏิบัติตามหลักคำสอนของศาสนาต่าง ๆ อย่างเลื่อมใสศรัทธา การปฏิบัตินั้นสามารถที่จะปฏิบัติตามศาสนาใด ศาสนาหนึ่งก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นคริสต์ อิสลาม ฮินดู


3. หนทางเข้าถึงพระเจ้า การเข้าถึงพระเจ้าโดยทั่วไปมี 3 ประการ คือ กรรมโยคะ ภักติโยคะ และญาณโยคะ แต่สวามี ถือว่า ภักติโยคะ คือความจงรักภักดีต่อพระเจ้าเป็นเป็นทางสายตรงกว่าทุกสาย ความภักดีต่อพระเจ้ามีความสำคัญมากกว่าความรู้ตามคัมภีร์ ไม่ว่าจะศาสนาใดในโลกนั้นล้วนเป็นหนึ่งเดียว ศาสนาต่าง ๆ นั้นเป็นการสร้างตามอุปนิสัยของคนตามจริต พระเจ้าเป็นสาขาให้เราเรียน เรียนแล้วจบเหมือนกัน


4. การแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อพระเจ้า ต้องแสดงออกทางด้านบริการสังคม การรักเพื่อนมนุษย์ เพราะเป็นส่วนหนึ่งของการรับใช้พระเจ้า เพราะผู้ที่จะรักเพื่อนมนุษย์อย่างจริงใจ ต้องกำจัดความถือตัว ความเห็นแก่ตัว แล้วพัฒนาเป็นความไม่ยึดมั่น ถือมั่น


                 โดยสรุปแล้วรามกฤษณะ ท่านจะเน้นเรื่องความภักดีต่อพระเจ้า พระเจ้าคือความจริง แต่เราเข้าถึงความจริงต่างกัน เพราะมือข้างนึง จับพระเจ้า อีกข้างนึงจับกิเลส ความภักดีต่อพระเจ้า ต้องมาก่อนมนุษย์ เพราะมนุษย์ทุกคนมาจากพระเจ้า

         ตัวอย่างเหตุการณ์ปัญหาการเมืองในปัจจุบัน สามารถแก้ด้วยการที่ ทุกคนต้องวางแนวคิดของตัวเองให้หมด ไม่มีอคติ ไม่มีลำเอียง ซื่อตรงต่อความเป็นจริง ไม่มีผลประโยชน์ของตัวเอง ถ้าเอาประเทศเป็นพระเจ้า เราต้องคิดว่า จะทำอะไรให้พระเจ้าได้ เพราะไม่ว่าเหลือง หรือ แดง ต่างเป็นลูกของพระเจ้าเหมือนกัน
          และรามกฤษณะจะให้ความสำคัญในเรื่องความเท่าเทียม ไม่แบ่งแยกหญิงชาย เขาให้ความสำคัญในเรื่องสิทธิสตรีเช่นกัน ดังที่กล่าวในตัวอย่างเรื่อง เจ้าแม่กาลี และหญิงขายบริการ

1 ความคิดเห็น:

  1. ผู้ใดถึงพระเจ้า ผู้นั้นถึงความสุขอย่างเเท้จริง ป้ายชี้ทางที่หันไปทางเดียวกันถึงเเม้นรูปลักษณะต่างๆไป ก็ไม่ใช่การต่างในจุดหมาย ท่านสวามีรามกฤษณะคือตะเกียงสัรวธัรมอีกดวงหนึ่งของพระสัทธรรมทีเกื้อกูลโลก

    ตอบลบ